Le Cordon Bleu โลโก้

ไขข้อสงสัย! มิชลินไกด์ และ มิชลินสตาร์ คืออะไร?

หลายคนชอบบอกว่าถ้าวันไหนอยากทานอาหารอร่อย ๆ คุณภาพดี จะต้องไปทานตามร้านอาหารที่ได้ Michelin Star เพราะเป็นเครื่องหมายชื่อดังระดับโลกที่ช่วยการันตีความอร่อยของเมนูในร้านอาหารนั้น ๆ วันนี้ Le Cordon Bleu Dusit เลยจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Michelin Guide และ Michelin Star ว่าคืออะไร ทำไมร้านอาหารหลาย ๆ ร้านที่ได้สัญลักษณ์นี้ ถึงมีลูกค้าต่อคิวเข้าอย่างไม่ขาดสาย

มิชลินไกด์ คืออะไร?



สำหรับใครที่ไม่ได้เป็นสายทานอาหารจริงจังหรือไม่ใช่คนที่ตระเวนหาร้านอาหารอร่อย ๆ อยู่ตลอดเวลา อาจจะยังไม่ทราบว่าจริง ๆ แล้วคำว่า มิชลินไกด์ หรือ Michelin Guide นั้นหมายถึง หนังสือคู่มือเล่มหนึ่ง ซึ่งเป็น Guide Book ชื่อดังระดับโลกที่ถูกจัดทำขึ้นโดยบริษัท Michelin โดยรายละเอียดในหนังสือจะเต็มไปด้วย ข้อมูลการเดินทางต่าง ๆ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และร้านอาหารคุณภาพดีรสชาติอร่อย ที่ถูกรวบรวมไว้ในหนังสือเล่มนี้เล่มเดียว

ที่มาที่ไปของ Michelin Guide

หลายคนก็คงสงสัยว่าทำไมบริษัทผลิตยางรถยนต์แบบ Michelin ถึงได้มาทำหนังสือ Guide Book ที่มีข้อมูลแนะนำทั้งที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหาร ซึ่งในสมัยก่อนหนังสือ Michelin Guide เป็นเพียงหนังสือแจกฟรีที่ทาง Michelin ตีพิมพ์ขึ้นมาเพื่อให้ข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยว เช่น แผนที่ สถานที่เที่ยว ตำแหน่งปั๊มน้ำมัน รวมถึงวิธีเปลี่ยนยางรถยนต์ เพื่อชักชวนให้ทุกคนออกไปเที่ยวพร้อมกระตุ้นยอดขายยางรถยนต์ของตัวเองไปในตัว

แต่แล้ววันนึง คุณ André Michelin ผู้ก่อตั้งบริษัทก็ดันไปเจอคนเอาหนังสือ Michelin Guide หน้าปกสีแดงที่ตัวเองทุ่มเททั้งแรงและเวลาในการรวบรวมข้อมูลมารองขาโต๊ะทำงาน ทำให้เขาตัดสินใจรีแบรนด์หนังสือเล่มนี้เพื่อสร้างมูลค่าให้กับมัน พร้อมเพิ่มรายละเอียดใหม่ ๆ เข้าไป อย่างรายชื่อโรงแรมที่พัก ร้านอาหารต่าง ๆ รวมทั้งยังมีพื้นที่สำหรับโฆษณาอีกด้วย ก่อนที่จะวางขายอย่างจริงจังในราคา 7 ฟรังค์ในช่วงปี 1920

ซึ่งคอลัมน์ร้านอาหารเป็นคอลัมน์ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนทำให้ต้องเริ่มจ้างนักชิมอย่างจริงจัง เพื่อไปตระเวนทานเมนูอาหารตามร้านต่าง ๆ โดยนักชิมเหล่านั้นจะไปในฐานะคนธรรมดา เพื่อเก็บข้อมูลและรายละเอียดทั้งหมดมาใส่ในหนังสือ Michelin Guide นั่นเอง

Michelin Star คืออะไร?

หลังจากที่หนังสือ Michelin Guide เพิ่มคอลัมน์แนะนำร้านอาหารเข้ามา ก็เริ่มมีการให้คะแนนร้านอาหารต่าง ๆ ด้วยการให้ดาว โดยในช่วงแรกจะมีเพียงสัญลักษณ์แค่ดาวหนึ่งดวงเท่านั้น ก่อนจะปรับระบบการให้คะแนนไปเป็น 1-3 ดาว โดยใช้ชื่อเรียกว่า มิชลินสตาร์ หรือ Michelin Star นั่นเอง

ร้าน Michelin Star มีทั้งหมดกี่แบบ?


Michelin Star ถือเป็นตราสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงคุณภาพและรสชาติความอร่อย ทำให้ร้านอาหารที่ได้มิชลินสตาร์ มักจะได้รับความสนใจจากผู้คนมากเป็นพิเศษ จนกลายมาเป็นร้านที่มีชื่อเสียงไปโดยปริยาย เพราะมิชลินสตาร์เป็นสัญลักษณ์อันทรงเกียรติและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยร้านอาหารที่ได้ Michelin Star จะมีทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน ดังนี้

  • Michelin Star 1 ดาว หมายถึง ร้านอาหารที่คัดสรรและเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง ปรุงรสชาติออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งถือเป็นร้านอาหารที่ควรค่าต่อการหยุดแวะชิม
  • Michelin Star 2 ดาว หมายถึง ร้านอาหารที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร เชฟประจำร้านมีความเชี่ยวชาญในการรังสรรค์เมนูอาหาร ซึ่งถือเป็นร้านอาหารที่ควรค่าต่อการออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม
  • Michelin Star 3 ดาว หมายถึง ร้านอาหารที่มีเชฟที่ชำนาญ เชี่ยวชาญ และอยู่ในจุดจุดสูงสุดของอาชีพการทำอาหาร เป็นร้านที่สามารถยกระดับศิลปะการทำอาหารขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งถือเป็นร้านอาหารที่ควรค่าต่อการเดินทางไกลเพื่อไปชิมสักครั้งในชีวิต

ร้านค้าที่จะได้ Michelin Star ต้องทำยังไงบ้าง?


หลายคนมักเข้าใจผิดคิดว่าร้านอาหารที่จะได้ Michelin Star จะต้องเป็นร้านอาหารหรูเท่านั้น แต่ทาง Michelin Guide ได้ออกมายืนยันแล้วว่า ปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณาไม่ได้มีเรื่องความสวยงามของร้าน การบริการของพนักงาน หรือแม้แต่ชื่อเสียงของเชฟ แต่จะใช้ 5 ปัจจัยดังต่อไปนี้ในการพิจารณา

  • กรรมวิธีการทำและรสชาติอาหาร โดยเชฟจะต้องมีความรู้ในการประกอบอาหารอย่างลึกซึ้ง สามารถชูรสชาติวัตถุดิบได้เป็นอย่างดี และจะต้องนำเสนอเมนูได้อย่างปราณีตและสร้างสรรค์
  • คุณภาพวัตถุดิบ วัตถุดิบทั้งหมดในร้าน ไม่ว่าจะเป็น วัตถุดิบประจำถิ่นหรือวัตถุดิบที่นำเข้ามา จะต้องมีความสดใหม่อยู่เสมอ
  • ความกลมกลืนของรสชาติ เชฟประจำร้านจะต้องสามารถปรุงอาหารให้มีรสชาติที่หลากหลาย แต่ยังมีความกลมกลืนและเข้ากันเป็นอย่างดี
  • คุณภาพและรสชาติในระยะยาว เชฟจะต้องแสดงศักยภาพในการทำอาหาร ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานกี่ปี รสชาติและคุณภาพของอาหารที่ร้านยังคงดีเช่นเดิม
  • เอกลักษณ์ของเชฟ เชฟจะต้องใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกใช้วัตถุดิบ การปรุงอาหาร ไปจนถึงการจัดจาน เพื่อแสดงถึงวิสัยทัศน์และเอกลักษณ์ในการทำอาหาร ที่มีความแปลกใหม่แต่ยังคงเคารพพื้นฐานการทำอาหารอยู่เสมอ

หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการครัวไทย กับ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต

สำหรับใครที่หลงใหลในเสน่ห์ของเมนูอาหารไทยดั้งเดิมที่มีมาแต่โบราณ ซึ่งเต็มไปด้วยเอกลักษณ์และวัตถุดิบมากมาย สามารถมาเปิดประสบการณ์สุดพิเศษกับหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการครัวไทย Le Cordon Bleu Dusit โดยผู้เรียนจะได้เรียนรู้การประกอบอาหารไทยมากกว่า 200 รายการ อีกทั้งผู้สำเร็จหลักสูตรนี้ยังจะได้รับ ประกาศนียบัตรวิชาการครัวไทย (Diplôme de Cuisine ThaÏe) ที่ออกโดยสถาบัน Le Cordon Bleu อีกด้วย

 

 

ทั้งหมดนี้คือความหมายและความเป็นมาของ มิชลินไกด์และมิชลินสตาร์ สัญลักษณ์การันตีความอร่อยและคุณภาพร้านอาหารที่โด่งดังไปทั่วโลก ที่น่าจะพอช่วยให้ทุกคนรู้และเข้าใจถึงความแตกต่างของทั้ง 2 คำนี้ ส่วนใครที่รักและหลงใหลในการทำอาหารทั้งคาวหวาน และต้องการพัฒนาทักษะเดิมที่มีอยู่ให้ก้าวหน้าและสมบูรณ์มากขึ้น สามารถมาสมัครหลักสูตรต่าง ๆ ตามที่ต้องการได้แล้ววันนี้ที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เครือข่ายสถาบันการศึกษาชั้นนำของโลกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.cordonbleu.edu/contact/th หรือทางไลน์ @lecordonbleudusit

 

 

TOP